วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

ทำไมน้ำแข็งจึงลอยน้ำได้ ?

ทำไมน้ำแข็งจึงลอย ?
        “เวลาที่เราดื่มน้ำที่มีน้ำแข็งลอยอยู่ในแก้ว  เคยสังเกตไหมว่า  น้ำแข็งทั้งก้อนเล็กก้อนใหญ่  ทำไมจึงลอยขึ้นมาบนผิวน้ำด้านบน   ไม่จมลงก้นแก้ว  ทั้งที่น้ำแข็งบางก้อนก็มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก   หากเราถือด้วยตัวเอง”
       หลักการลอยน้ำของน้ำแข็งนี้   เป็นไปตามทฤษฎีเรื่องกฎการลอยตัวของวัตถุ   ซึ่งค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวกรีกชื่อ  อาร์คิมีดีส  ซึ่งกล่าวไว้ว่า
         “เมื่อวัตถุอยู่ในน้ำ    จะมีแรงกระทำ  2   แรง   คือแรงน้ำหนักของวัตถุที่กระทำต่อด้านล่าง   และแรงดันของน้ำที่ดันวัตถุขึ้น    ซึ่งหากน้ำหนักของวัตถุเท่ากันหรือน้อยกว่าแรงดันของน้ำที่ดันขึ้นมา   วัตถุก็จะลอยได้   แต่ถ้าหากน้ำหนักของวัตถุมากกว่าน้ำหนักของน้ำที่แทนที่   วัตถุนั้นก็จะจมน้ำ”
         ด้วยเหตุนี้  วัตถุจะลอยน้ำได้ก็ต่อเมื่อน้ำหนักของวัตถุเท้ากับน้ำหนักของน้ำที่มาแทนที่  อาร์คิมีดีสจึงเรียกว่า  “กฎการแทนที่”
          น้ำ  เป็นของเหลวที่มีคุณสมบัติเฉพาะ   ไม่เหมือนกับของเหลวอื่นๆ   ดังนั้น   เมื่อเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง   มีขนาดใหญ่ขึ้น   ปริมาตรจะมากขึ้น   และความหนาแน่นคิดเป็น  9/10  ของน้ำแข็ง    น้ำแข็งจึงมีน้ำหนักเบากว่าน้ำ   จึงสามารถลอยอยู่ในน้ำได้
           เช่นเดียวกับภูเขาน้ำแข็ง  ที่โผล่เหนือผิวน้ำเพียง  1/10   ส่วนของภูเขาทั้งลูก   ส่วนอีก  9  ส่วนจะจมอยู่ในน้ำ   ดังนั้นเวลาที่เรือไททานิกพุ่งชนภูเขาน้ำแข็งจึงก่อให้เกิดความเสียหาย  และจมในที่สุด



ที่มา:  หนังสือเสริมการเรียนรู้   ชุด   สรรพ์สาระของโลก  WHY?  รู้รอบความลับของโลก
    นิพาพัชร์  ปิ่นสุวรรณ

การทักทายไม่ได้มีแค่ Hi!

การทักทาย  (Greeting)
“การทักทายเป็นมารยาทและวัฒนธรรมอันดีงามของคนมีอารยธรรมแสดงให้เห็นอัธยาศัยไมตรีที่ดี   แม้ไม่รู้จะคุยอะไรต่อ    อย่างน้อยก็ให้มีการทักทายกันไว้ก่อนเพื่อให้รู้ว่าเราเป็นคนมีมารยาท   ซึ่งมีการทักทายกันด้วยคำพูดที่สร้างสรรค์มากไปกว่า   Hi !  หรือ  Hello   เพื่อหลีกเลี่ยงความจำเจ”   เช่น
    สวัสดีกันตามเวลา
Good   morning! ,  Good  afternoon!, Good  evening!
     สวัสดีได้ทุกเวลา
Hello! ,  Hi !
      ทักทายเมื่อพบกันครั้งแรก
How   do  you  do?  
      ทักทายกันแบบแนวๆ
What’s  up,  man ?  / Yo,  what’s  up ? / Hello,  there!/  Peek-a-boo/  Hi,  Guys/  Lovely  day,  isn’t  it? /  Lovely  morning, n isn’t  it ?
         ถามสารทุกข์สุกดิบ
How  is  the  thing?  /  How  is  the  thing  going?  /  How  are  you?  /  How  is  it  going? /  how  have  you   been?  /  Long  time  no  see.  Where  have  you   been?
             การตอบกลับ
นอกเหนือไปจาก  I’m  fine  ที่เป็นประโยคยอดฮิต  แต่ก็มีบางวันที่เราไม่สบาย  บางวันก็อารมณ์ไม่ดี   แต่ก้อตอบ  I’m  fine  เพื่อตัดปัญหา  เพาะขี้เกียจคิด    และก็ยังมีประโยคที่ใช้ตอบเหมือนกันอีกหลายประโยค  เช่น
 I’m  okay  /  I’m  all  light  /  Good  /Very  good  /  Great  /  Awesome  /  Terrific  /  Excellent  /  So  so  /Not  too  bad  /  Suck
          การถามกลับ
And  you?  /  And  how  are  you?  /  How  about  you?  /  What  about  you?


ที่มา:  หนังสือ  100  วิธีพูดอังกฤษแบบเหนือชั้น  ครู  สัรีรัตน์  ทองอินทร์